สอนติดตั้งปรับบูสมิือกับเวสเกตกระป๋อง และท่อไอเสียวาล์วบายพาส FASTEX

ก่อนติดตั้ง

ก่อนการติดตั้งปรับบูสแนะนำให้เช็ครั่วท่อไอดีก่อนเพื่อเลี่ยงเทอร์โบขาด วิธีง่ายๆคือให้คนบนรถเร่งเครื่อง 1500 รอบ/นาที แล้วอีกคนเอาน้ำสบู่ไล่ฉีดตามข้อต่อท่อไอดีตั้งแต่ออกจากเทอร์โบไปจนเข้าเครื่อง รวมถึงแผงอินเตอร์คูลเลอร์ด้วย ถ้ารั่วจะมีฟองอากาศให้แก้ไขก่อนติดตั้งสินค้า

จุดสังเกตุอีกอย่างคือ หากจุดไหนรั่วจะมีคราบน้ำมันออกมาจากท่อไอดี แนะนำให้ตรวจเช็คทุก 2-3เดือน

รถที่ใส่ตัวปรับบูสแนะนำให้มีอย่างน้อยคือแผ่นกรองอากาศแต่ง จะใช้แบบตรงรุ่นแทนแผ่นกรองอากาศเดิมก็ได้ หรือจะกรองเปลือยก็ได้ ขอให้เป็นของแต่งใช้ได้หมด และดูแลอย่าให้กรองอากาศตัน ปีนึงเปลี่ยนทิ้งเลย

2 อย่างที่บอกเป็นสาเหตุหลักที่ทำให้เทอร์โบขาด รถแต่งทุกคันควรดูแลเป็นพิเศษ

การติดตั้งปรับบูสมือ กับเวสเกตกระป๋อง

หากเป็นไปได้ให้เจาะลมไปเกจวัดบูสแยกจากท่อไอดีเลย จะดีกว่าการใช้สามทางแบ่ง เนื่องจากหากเกจวัดบูสรั่วจะได้ไม่กระทบการทำงานเวสเกต

รถทุกคันบูส 7-60 ปอนด์ ให้ใส่ข้อต่อสีเทาที่แถมไปด้วย (จำเป็นต้องใส่ทุกคัน) ตำแหน่งตามรูป

แนะนำให้ใช้เกจวัดบูสแบบลมในการอ่านบูส เกจเสียบ OBD2 ทุกชนิด
อ่านค่าได้แค่ 22 ปอนด์ เช่นบูสจริง 30 ปอนด์ เกจจะขึ้นแค่ 22 ปอนด์

สปริงสั้น (30 มิล) ที่แถมไปใช้สำหรับบูสไม่ถึง 30 ปอนด์

บูสมากกว่า 30 ปอนด์ให้ใช้สปริงตัวยาว (35 มิล) ที่ใส่ไว้แล้วในตัวปรับบูส

ตอนขับรถเทสบูส ให้ขับยั้งๆไว้ระวังบูสเกิน บูสจะขึ้นเมื่อขับจริงเท่านั้น ไม่สามารถเทสได้หากเร่งอยู่กับที่

ก่อนติดตั้งปรับบูสสำหรับ รถที่ใช้เวสเกตแต่งแบบปรับขาได้ แนะนำให้ตั้งขาเวสเกตให้บูสต่ำกว่าที่ต้องการใช้จริง 10 ปอนด์ จากนั้นจึงใส่ปรับบูส เพื่อปรับขึ้นไปยังบูสที่ต้องการ

การติดตั้ง สินค้า FASTEX ต้องอ่านครับ

รถดีเซลและเบนซินทุกคันให้ใช้ข้อต่อรูเล็กสีเทา
ที่แถมไปในเซท ( ข้อต่อรูเล็ก) จะบูส 7-60 ปอนด์ รถเก๋ง/กระบะใช้ข้อต่อรูเล็กสีเทาทั้งหมด
รถที่ใช้ข้อต่อรูใหญ่สีดำจะมีแต่รถที่เครื่องมีปัญหาเท่านั้น ในคลิปมีการแนะนำข้อต่อรูใหญ่ แต่ตอนนี้เราเลิกใช้แล้ว เนื่องจากสปริงรุ่นใหม่มีการเปลี่ยนค่า K ซึ่งดีกว่ามาก และไม่ต้องใช้ข้อต่อรูใหญ่

แนะนำให้ใช้เกจวัดบูสแบบลมในการอ่านบูส เกจเสียบ OBD2 ทุกชนิด
อ่านค่าได้แค่ 22 ปอนด์ เช่นบูสจริง 30 ปอนด์ เกจจะขึ้นแค่ 22 ปอนด์

การใช้ข้อต่อรูเล็กจะช่วยในการคืนตัวของเวสเกตเนื่องจากพอลมบูสไปเปิดเวสเกตแล้ว แต่จังหวะที่เวสเกตคืนตัวกลับถ้าไม่มีข้อต่อระบายรูเล็กจะคืนตัวช้า อัตราเร่งจะไม่ต่อเนื่อง

กรณีเดียวที่อนุโลมไม่ต้องใส่ข้อต่อสีเทาที่ให้ไป

คือ หากใส่สปริงตัวสั้น 30 มิล พร้อมทั้งคลายเกลียวจนสุดแล้วแต่บูสยังเยอะอยู่ จึงอนุโลมให้เอาข้อต่อสีเทาออกได้ ซึ่งมักจะเกิดกับรถที่ใส่คอท่อแต่งที่ทำรูระบายไอเสียเวสเกตให้ตีบมา หรือรถที่ใช้เวสเกตแต่งที่ขาสั้นไป ไม่สามารถคลายขาเวสเกตให้ยาวขึ้นเพื่อตั้งบูสให้ต่ำกว่าที่ต้องการใช้จริง 10 ปอนด์ ก่อนติดตั้งตัวปรับบูสได้

ติดตั้งตามภาพ โดยให้ปรับบูส FASTEX มีด้านเกลียวชี้ไปทางเวสเกตจากนั้นตามด้วยข้อต่อเทา แล้วเข้าเวสเกตเลย ห้ามมีอะไรมาคั่น
คลายเกลียวตัวปรับบูสใ้ห้ยาวที่สุด (ลดบูส) แล้งลองขับเลย
ขันเกลียวเข้า (สั้น) บูสจะเพิ่ม – คลายเกลียวออก (ยาว) บูสจะลด
กรณีที่คลายเกลียวสุด+ข้อต่อรูเล็กสีเทาแล้วบูสมาน้อยกว่าที่ต้องการ ให้ขันตัวปรับเข้า บูสจะเพิ่มเรื่ิอยๆจนพอใจ
กรณีที่คลายเกลียวสุดแล้ว บูสยังมาเยอะเกินให้ใช้สปริงสั้นที่ให้ไป ซึ่งจะยาว 30 มิล โดยเราจะให้สปริงไป 2 ขนาด ตัวยาว 35 มิล ให้ใช้กับบูส30 ขึ้นไป และสปริงสั้น 30 มิล ให้ใช้กับบูสต่ำกว่า 30 ปอนด์ รวมถึงรถเทอร์โบเดิมก็ให้ใช้สปริงสั้น เทอร์โบเดิมแนะนำปรับไปที่ 20 ปอนด์ จะให้ดีควรมีกรองเปลือยถ้าจะบูสมากกว่า 20 ปอนด์
การต่อข้อต่ออย่าให้สายลมบังท่อนกลางของข้อต่อรูเล็ก ให้ต่อตามรูป แนะนำให้เอาวาล์วปรับบูสและข้อต่อติดตั้งไว้ในห้องเครื่อง ไม่จำเป็นต้องไว้ในห้องโดยสาร การที่สายสั้น ยิ่งตัวปรับอยู่ใกล้เวสเกตการตอบสนองยิ่งดี
ครั้งแรกที่ติดตั้ง รวมถึงครั้งแรกที่ลองหลังจากใส่ข้อต่อให้คลายเกลียวตัวปรับบูสให้สุดก่อนเสมอ ไม่ต้องกลัวหลุดเพราะด้านในมีแค่สปริงกับหัวทองเหลือง ถึงหลุดก็ใส่กลับเข้าไปได้ง่ายๆ
รถที่ปรับขาเวสเกตหรือรองแหวนเพื่อเพิ่มบูสมาแนะนำให้ถอด หรือจะให้ดีตั้งขาให้ได้บูสประมาณ 3 ใน 5 ของบูสที่ต้องการเช่น ต้องการได้บูส 40 ปอนด์ ให้ตั้งขาเวสเกตให้ได้ 24 ปอนด์ แล้วจึงใส่ปรับบูส หากเวสเกตปรับขาไม่ได้ก็ไม่ต้องตั้งเพราะไม่จำเป็นมากนัก
รถคันไหนโดยเฉพาะโตโยต้าถ้ามีอาการสะดุดที่บูสประมาณ 15 ปอนด์ คืออาการกล่องตัด ให้ดูวิธีแก้ง่ายๆด้านล่าง

ถ้าใช้แล้วชอบช่วยไปรีวิวเป็นกำลังใจสัก 1 คอมเมนต์ ในโพสสินค้า (แค่เขียนแอดก็ดีใจแล้ว) เพื่อเป็นกำลังใจให้ FASTEX ทำของดี ไม่แพง ให้ใช้กัน

หากใส่สปริง 30 มิล+คลายเกลียวสุดแล้วแต่บูสยังมาเกิน

ปรับบูสทุกชนิดแม้แต่ปรับบูสไฟฟ้าราคาหมื่นกว่าบาท จะไม่สามารถตั้งบูสเท่าหรือน้อยกว่าเดิมได้ครับ เช่น ตอนก่อนใส่ปรับบูส ตอนที่ยังเสียบสายลมบูสไปที่เวสเกตตรงๆ สมมุติบูสที่ 30 ปอนด์

เมื่อใส่ปรับบูสเข้าไปจะไม่สามารถตั้งบูสต่ำกว่าความแข็งเดิมของเวสเกตที่ 30 ปอนด์ จะต้องปรับเพิ่มขึ้นเท่านั้น ดังนั้นถ้าต้องการลดบูสจากเดิมต้องตั้งขาเวสเกตใหม่ก่อน อันนี้เป็นหลักการสากล ปรับบูสทุกชนิดในโลกใช้หลักการเดียวกัน

วิธีติดตั้งปรับบูสที่ถูกต้อง

กรณีเทอร์โบเวสเกตแต่ง ก่อนใส่ปรับบูส ควรตั้งขาเวสเกตให้บูสอยู่ต่ำกว่าที่ต้องการสัก 10 ปอนด์ (เช่นต้องการบูส 40 ปอนด์ ก่อนใส่ปรับบูสให้ตั้งขาเวสเกตให้บูสอยู่ 30 ปอนด์ก่อน โดยการขันขาให้ยาวขึ้นจะเป็นการลดบูส โดยมากจะเกลียวละ 2-3 ปอนด์)

หลังจากตั้งบูสต่ำกว่าที่ต้องการสัก 8-10ปอนด์แล้วถึงใส่ปรับบูส และหากมีการรองแหวนเวสเกตมาให้เอาออกด้วย จากนั้นใส่ปรับบูส fastex พร้อมสปริง30มิลคลายสุดพร้อมใส่ข้อต่อสีเทาแล้วค่อยเริ่มปรับบูสขึ้นไปบูสที่ต้องการ
กรณีเทอร์โบเดิม สปริงเวสเกตจะแข็ง 11-13ปอนด์ อยู่แล้วสำหรับเทอร์โบเวสเกตเดิมรถโรงงานทุกยี่ห้อ เพราะฉะนั้นหากเราใส่ปรับบูส FASTEX พร้อมสปริง 30 มิล (ใส่สปริงให้สุดหัวทองเหลือง) + ข้อต่อสีเทา จะต้องสามารถตั้งบูสที่ 20 ปอนด์ ได้ (ยึดตอนบูสนิ่ง) หากพบว่าแม้คลายเกลียวสุดแล้วแต่บูสก็ยังมากกว่า 20 ปอนด์ แสดงว่ายังคลายเกลียวไม่พอ รถเทอร์โบเดิมโรงงานทุกรุ่น แนะนำปรับบูสไม่เกิน 20-22 ปอนด์ โดยให้อิงบูสตอนที่ขับจริง แล้วดูค่าตอนที่บูสนิ่งเป็นหลัก โดยในจังหวะแรก บูสอาจฟาดเกินได้แต่จะต้องตกลงมานิ่งทันที ให้อิงค่าที่นิ่งเป็นหลัก

เนื่องจากเราออกแบบมาให้ความยาวสปริง 30 มิล ในตัวปรับบูสความยาวมันไม่ถึงที่จะกดหัวทองเหลืองได้หากคลายเกลียวปรับบูสสุด และหากมันไม่กดหัวทองเหลือง มันก็ต้องไม่ทำงาน ดังนั้นหากคิดว่าคลายเกลียวสุดแล้วแต่บูสยังมาเยอะเกิน ให้กลับไปลองคลายเกลียวใหม่ โดยแนะนำให้ใช้สปริงสั้น 30 มิล + ข้อต่อเทา โดยเริ่มจากคลายเกลียวระยะตามรูป

แนะนำให้ใช้เกจวัดบูสแบบลมในการอ่านบูส เกจเสียบ OBD2 ทุกชนิด
อ่านค่าได้แค่ 22 ปอนด์ เช่นบูสจริง 30 ปอนด์ เกจจะขึ้นแค่ 22 ปอนด์

ถ้ารถมีอาการสะดุดปรับบูสไม่ขึ้น โดยเฉพาะวีโก้,ไทเกอร์ D4D,ตู้ Commuter

หากมีอาการปรับบูสไม่ขึ้นแม้ใช้ข้อต่อรูใหญ่แล้วขันเข้าสุดก็ไม่ขึ้นจนพอใจ โดยเฉพาะโตโยต้า,มิตซูบิชิ ที่มีอาการสะดุด หรือรถอื่นที่ต้องการบูสมากกว่า 25 ปอนด์ แต่บูสไม่ขึ้นแม้ใช้ข้อต่อแล้ว

ในรถโตโยต้าบางล็อต (ส่วนมาก) ถ้าไม่เคยรีแมป หรือใส่กล่องปลดบูส จะมีปัญหาคือบูสไปประมาณ 17 ปอนด์ จะเกิดอาการสะดุดคันเร่งทื่อๆ บูสจะไม่เพิ่มต่อ สาเหตุเกิดจากกล่องสั่งตัดน้ำมัน การแก้ไขให้ลดบูสลง หรือใส่กล่องปลดบูส ราคาประมาณ 1500 บาท (หาตามเฟส) หรือหาไดโอดมาคร่อมตามวิธีนี้ คลิ๊ก หรือเอาข้อต่อสีดำที่แถมให้เสียบที่สายเข้า MAP (วิธีบ้านๆแต่ได้ผลแน่นอน) คลิ๊ก
หากต้องการทดสอบว่าสาเหตุมาจากกล่องตัดน้ำมันหรือไม่ให้ทำตามวิธีในข้อข้างล่าง
รถยี่ห้ออื่นที่มีอาการสะดุดที่บูส 17-20 ปอนด์หรือไฟเครื่องโชว์ เกิดจากกล่องตัดให้ไปรีแมปปลดล็อกก่อน ปัญหาเกิดจากกล่องตัดน้ำมันไม่ใช้การปรับบูส

การปลดบูสรถโตโยต้าซื้อไดโอดมาคร่อมมารูป เบอร์ไดโอดแจ้งไว้ในรูป

การปลดล็อกบูสโตโยต้าทุกรุ่นอีกวิธีแบบบ้านๆแต่ได้ผล คือใช้ข้อต่อรูใหญ่สีดำที่แถมไป แต่แอดว่าไดโอดน่าจะดีกว่า

หากปรับบูสไม่ขึ้นแม้ใช้ข้อต่อรูเล็กสีเทาและขันเกลียววาล์วปรับเข้าไปเยอะจะสุดแล้ว บูสก็ไม่ขึ้น

มีวิธีการเทสง่ายๆโดยดึงสายลมที่จะเข้าปรับบูส FASTEX ออก จากนั้นใช้น็อตอุดสายที่ดึงออกไว้กันลมรั่ว เท่ากับว่าตอนนี้จะไม่มีลมไปที่เวสเกต ส่วนสายที่ไปเข้าเวสเกตก็ให้ปล่อยทิ้งไว้อย่างนั้น จากนั้นเอารถออกไปขับลองโดยเหยียบไปโดยดูว่าบูสขึ้นถึงที่คุณต้องการมั๊ย (ตอนลองระวังบูสเกิน)

ถ้าพบว่าแม้อุดสายลมที่จะไปเวสเกตแล้ว แต่บูสก็ยังไม่ขึ้น อันนี้ต้องแก้ที่ตัวรถไม่ใช่ที่ปรับบูส รถปกติแม้เดิมๆ ถ้าอุดสายลมไปเวสเกต บูสจะต้องมาอย่างน้อย 25 ปอนด์ ถ้าพบว่ารถลูกค้าแม้อุดก็ยังไม่ขึ้นโดยมากจะเกิดจาก ท่อไอดีรั่ว (ท่อที่ออกจากเทอร์โบไปเข้าอินเตอร์ แล้วไปเข้าท่อร่วมไอดีเครื่อง) ส่วนมากจะรั่วตามข้อต่อ แนะนำให้เบิ้ลเครื่องเอาน้ำสบู่ไล่ฉีดหรือไปให้ร้านท่อไอเสีย/ร้านท่ออินเตอร์เช็ครั่ว ปัญหาเกิดมาจากรถ ไม่ใช่มี่ปรับบูส

หากพบว่าอุดแล้วบูสมามากกว่าตอนในปรับบูสแม้ขันสุดและใส่ข้อต่อรูเล็กสีเทาแล้ว ให้โทรหา FASTEX ที่เบอร์ 090-456-7891

บางคันที่แม้คลายเกลียวสุดแต่บูสยังเยอะเกิน รวมถึง รถเบนซินที่บูสน้อยกว่า 1 บาร์ หรือรถดีเซลที่ต้องการบูสประมาณ 20 ปอนด์ ให้เริ่มต้นด้วยการใช้สปริงสั้น (30 มิล) ที่แถมให้ไป

เช่น ต้องการบูส 20 ปอนด์ แต่ว่าแม้คลายเกลียวสุดโดยไม่ใช้ข้อต่อ ก็ยังบูส 25 ปอนด์ ไม่สามารถปรับลงได้ ไม่ต้องตกใจเป็นเรื่องปกติ เพราะรถแต่ละรุ่น เทอร์โบแต่ละคันไม่เหมือนกัน
เบื้องต้นให้ตรวจสอบก่อนว่าได้รองแหวนเวสเกตมาหรือว่าปรับขามาหรือเปล่า ถ้าทำมาให้ปรับคืนสภาพเดิมโรงงานก่อน จากนั้นให้แก้ไขโดยถอดตัวปรับบูสออกมาด้านในจะมีสปริงให้สลับไปใช้สปริงสั้นที่แถมไป โดยเราจะให้สปริงไป 2 ขนาด ยาว 35 มิล สำหรับบูสประมาณ 30 ปอนด์ขึ้นไป และ สปริงสั้นที่บูสต่ำกว่า 30 ปอนด์
รถทุกคันให้ใช้ข้อต่อรูเล็กสีเทาที่แถมไปด้วย ไม่ต้องอิงตามคลิปที่แอดเคยอัดไว้นานแล้ว เพราะแอดได้เปลี่ยนความแข็งสปริง ปัจจุบันกำหนดให้รถทุกคันใช้ข้อต่อรูเล็กสีเทาที่แถมไปทั้งหมด เนื่องจากถ้าไม่ใช้ช่วงจังหวะต่อเกียร์เวสเกตจะไม่คืนตัวเพราะลมไม่มีทางออก รถบางคันถ้าไม่ใช้ข้อต่อนี้จะไม่สามารถปรับบูสได้

แนะนำให้ใช้เกจวัดบูสแบบลมในการอ่านบูส เกจเสียบ OBD2 ทุกชนิด
อ่านค่าได้แค่ 22 ปอนด์ เช่นบูสจริง 30 ปอนด์ เกจจะขึ้นแค่ 22 ปอนด์

การปรับบูสเทอร์โบเดิมในกรณีที่รถไม่มีวัดบูส

เปลี่ยนใส่สปริงสั้นที่ให้ไป (ยาว30มิล)ขันเกลียวให้เข้ามานิดนึงแตะๆหัวทองเหลือง จุดสังเกตจะเอาปากเป่่าลมด้านหัวทองเหลืองลมจะผ่านอ่อนๆได้ ถ้าขันเข้าเยอะไปลมจะไม่ผ่านครับ
สำคัญมากคือเอาปากเป่าจากด้านลมเข้า(ด้านหัวทองเหลือง) จะต้องสามารถเป่่าลมผ่านได้แต่อั้นๆ คือผ่านได้สัก20% พอได้จุดที่เป่าลมออกได้20% (จุดที่บอกจะคลายเกลียวออกมาเกือบสุด)
พอได้จุดที่เป่าลมผ่านได้20% แล้วให้ขันเข้าตามเข็มนาฬิกาเพิ่มเข้าไปอีก 1 ใน4 รอบ ใครชอบปลอดภัยก็เพิ่มไป 1ใน6รอบพอ ไม่ต้องถึง 1ใน4 จะได้บูสประมาณ18-20ปอนด์พอดี เพื่อความปลอดภัย (ถ้าเป่าไม่ผ่านเลยคือ27-30ปอนด์)
จากนั้นติดตั้งโดยใช้ข้อต่อเทารูเล็กที่แถมให้ด้วย
รถดีเซลเทอร์โบเดิมไม่ควรบูสเกินนี้ และแนะนำให้ไปซื้อวัดบูสแบบลมมาใช้เพื่อความปลอดภัย